วิชาภูมิศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องทั้งวิทยาศาสตร์กายภาพ
และวิทยาศาสตร์มนุษย์และสังคม ข้อมูลที่นำมาใช้ในการอธิบายการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ของทั้งสองด้านนั้นได้มาจากวิธีการหลายรูปแบบ
และเนื่องจากวิชาภูมิศาสตร์มีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ ดังนั้นแผนที่จึงเป็นเครื่องมือและข้อมูลหลักในการอธิบายความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ
ในพื้นที่ เมื่อวิทยาการและเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้นได้มีการนำภาพถ่ายทางอากาศมาใช้ในการผลิตแผนที่
ทำให้ได้ข้อมูลและรายละเอียดในพื้นที่รวดเร็วขึ้นกว่าการเดินสำรวจแบบดั้งเดิม ดังนั้นในระยะเริ่มต้นภาพถ่ายทางอากาศจึงถูกนำมาใช้เป็นข้อมูลเชิงพื้นที่ที่สำคัญทางด้านภูมิศาสตร์
จนกระทั่งปัจจุบันวิวัฒนาการในการสำรวจพื้นโลกได้ก้าวหน้าไปมาก มีการพัฒนาเพื่อใช้ดาวเทียมสำรวจพื้นโลกซึ่งครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างและให้รายละเอียดในระดับสูง
อีกทั้งประสิทธิภาพในการบันทึกข้อมูลในแถบช่วงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สายตามนุษย์มองไม่เห็นหรือใช้ฟิล์มธรรมดาบันทึกภาพไม่ได้
เช่น ช่วงคลื่นในย่าน อินฟราเรดใกล้ (Near infrared) อินฟราเรดความร้อน (Thermalinfrared) หรือ ไมโครเวฟ (Microwave) เป็นต้น
จึงทำให้ได้ข้อมูลที่ยังไม่เคยทราบมาก่อนและมีประโยชน์ในการนำมาใช้วางแผนและแก้ปัญหาต่างๆ
ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และทันเหตุการณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ข้อมูลที่เป็นภาพจากดาวเทียมจึงถูกนำมาใช้ในด้านภูมิศาสตร์อย่างแพร่หลาย
ทั้งในด้านภูมิศาสตร์กายภาพและภูมิศาสตร์มนุษย์ ความได้เปรียบของภาพถ่ายจากดาวเทียมทำให้ เกิดประโยชน์ต่อวิชาภูมิศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง
คือ การที่ภาพคลุมพื้นที่บริเวณกว้างทำให้เห็นและเข้าใจปฏิสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ในพื้นที่ได้เป็นบริเวณกว้างยิ่งขึ้น
ซึ่งก่อนหน้านั้นทำได้ยากต้องอาศัยจินตนาการของนักภูมิศาสตร์เป็นอย่างมาก (ประเสริฐ, มปป.) ในปัจจุบันรีโมทเซนซิงหรือการสำรวจข้อมูลจากระยะไกล
จึงเป็นวิชาหนึ่งที่สอนกันอย่างแพร่หลายในหลายหลักสูตร รวมทั้งเป็นรายวิชาบังคับในหลักสูตรภูมิศาสตร์ของหลายมหาวิทยาลัย
อ่านเพิ่มเติมที่ http://www.slideshare.net/saintja/5-451-file
อ่านเพิ่มเติมที่ http://www.slideshare.net/saintja/5-451-file
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น